รอบรู้สมุนไพรไทย –


October 30, 2012

สมุนไพรช่วยรักษาอัณฑะยาน

Category: Uncategorized – noum77 3:58 am

สมุนไพรช่วยรักษาอัณฑะยาน

พลู

ชื่อสามัญ  Piper  betle  Linn.
ชื่อวงศ์  Fam. : PIPERACEAE 

ชื่ออื่น  พลูจีน , พลูเหลือง, พลูทอง, พลูทางหลาง , พลูเขียว ,ปู (เหนือ)
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ต้น      เป็นพรรณไม้เถาเลื้อยยาว  ก่อนที่ จะปลูกพรรณไม้นี้ต้องหาค้างให้มันยึดเกาะ และจะมีรากเป็นกระจุก        ออกมาตามเถา สามารถจับแน่น  กับสิ่งที่มันยึดเกาะอยู่
ใบ       เป็นใบเดี่ยว  ใบอ่อนจะเป็นสีเขียว และใบแก่สีจะเข้มขึ้น  ก้านใบมีความยาวประมาณ  5  ซม.  จะออกตามเถาบริเวณตา  ใบ จะมีกลิ่นฉุน  พลูนั้นจะมีหลายชนิดคือพลูจีน  พลูเหลือง  พลูเขียว  และพลูทองหลาง
การขยายพันธุ์          โดยการปักชำ  ตาม บริเวณที่ชื้นแฉะ และมีหลัก ที่รากพลูสามารถ ยึดเกาะได้
ส่วนที่ใช้   ใบ  ใช้เป็นยา
สรรพคุณทางสมุนไพร

ใบ             แก้ปวดฟัน แก้รำมะนาด แก้ปากเหม็น ขับลมในลำไส้ แก้ท้องอืด แก้ปวดท้อง แก้ท้องเสีย กระตุ้นให้กระปรี้กระเปร่า ใช้ภายนอก แก้ปวด บวกฟกช้ำ ฆ่าเชื้อหนองฝีวัณโรค แก้การอักเสบของเยื่อจมูกและคอ แก้กลาก แก้น้ำกัดเท้า แก้คัน แก้บวมพิษ ลนไฟนาบท้องเด็ก แก้ปวดท้องและแก้ลูกอัณฑะยาน

ห่างหายกันไปหลายวัน  วันนี้ก็เลยนำความมหัศจรรย์ของพรรณไม้อีกชนิดหนึ่งที่มีประโยชน์อย่างที่หลายคนไม่ีเคยรู้มาก่อน  นั่่นก็คือ “พลู”  โดยเฉพาะส่วนใบสด  ที่สามารถช่วยแก้ปวดศีรษะที่เกิดจากความเครียดได้  ความเครียดเกิดได้จากหลายสาเหตุ  เป็นแล้วทำให้มีอาการปวดศีรษะรุนแรงตามมาด้วย  บางคนมีอาการบ่อยหรือเป็นประจำทำให้มีอารมณ์หงุดหงิด  ต้องกินยาคลายเครียดหรือยาแก้ปวดจึงจะหายได้  ในทางสมุนไพร  มีวิธีแก้อาการปวดศีรษะเพราะความเครียดได้  คือให้เอา  ใบพลูสด  หั่นเป็นฝอยคั่วให้แห้งชงกับน้ำร้อนดื่มแทนน้ำชา  หรือใบพลูที่คั่วแห้งแล้วดังกล่าวหนึ่งหยิบมือ  หรือประมาณ  5 กรัม  ต้มกับน้ำ  1  ลิตร  ต้มจนเดือดมองเห็นเนื้อยาละลายออกมา  ดื่มวันละ  3-4  ครั้ง  ครั้งละแก้ว

จะช่วยทำให้อาการปวดศีรษะเพราะความเครียดหายได้  พลู  หรือ  BETEL  VINE  PIPER  BETLE  LINN.  อยู่ในวงศ์  PIPERACEAE  เป็นไม้เถาเลื้อยเนื้อแข็ง  ใบเป็นใบเดี่ยว  ออกเรียงสลับ  รูปหัวใจ  ใบมีกลิ่นเฉพาะตัว  และมีรสเผ็ด  ดอก  ออกที่ซอกใบ  ดอกย่อยขนาดเล็กอัดกันแน่นเป็นรูปทรงกระบอก  แยกเพศ  สีขาว  “ผล”  รูปทรงกลมเบียดกันอยู่บนแกนช่อ  ขยายพันธุ์ด้วยเมล็ด, ปักชำต้น,  ซึ่งพลู  มีหลายสายพันธุ์  เช่น  พลูเหลือง  หรือ  พลูทองหลาง  เป็นต้น  ประโยชน์น้ำคั้นจาก  ใบพลูสด  กินเป็นยาขับลมและทาแก้ลมพิษ  โดยใช้  3-4  ใบ  ขยี้หรือตำให้ละเอียดผสมเหล้าขาว  40 ดีกรี  เพียงเล็กน้อย  ทาบริเวณที่เป็น  ใบมีน้ำมันหอมระเหย  ประกอบด้วยสาร  CHAVICOL  และ  EUGENOL  มีฤทธิ์ทำให้ชาเฉพาะที่  สามารถเบาเทาอาการคันและฆ่าเชื้อโรคบางชนิดได้  ในปัจจุบัน  มีการพัฒนาเป็นตำรับยาขึ้ผึ้งผสมสารสกัด  “ใบพลูสด”  ขึ้นเพื่อใช้เป็นยาทารักษาโรคผิวหนังบางชนิด

October 29, 2012

สมุนไพรบำรุงผิวพรรณร่างกาย

Category: Uncategorized – noum77 2:08 am

สมุนไพรบำรุงผิวพรรณร่างกาย

สรรพคุณ / ประโยชน์ของใบบัวบก

ในตำราไทยกล่าวว่า บัวบกมีรสเฝื่อน ขม เย็น เป็นยาขับปัสสาวะ แก้ท้องเสียหรือบิด แก้ลม แก้อ่อนเพลีย เมื่อยล้า เป็นยาบำรุงกำลัง ยาอายุวัฒนะ นอกจากนี้ยังมีผู้รจนาสรรพคุณของบัวบกว่า “กิน 1 เดือน โรคร้ายหายสิ้นมีปัญญา กิน 2 เดือน บริบูรณ์น่ารักมีเสน่ห์ กิน 3 เดือน ริดสีดวงสิบจำพวกหายสิ้น กิน 4 เดือน ลมสิบจำพวกหายสิ้น กิน 5 เดือน โรคร้ายในกายทุเลา กิน 6 เดือน ไม่รู้จักเมื่อยขบ กิน 7 เดือน ผิวกายจะสวยงาม กิน 8 เดือน ร่างกายสมบูรณ์เสียงเพราะ..”

จากงานศึกษาวิจัยพบว่า บัวบกมีฤทธิ์เช่นเดียวกับแปะก๊วยในการบำรุงสมอง กล่าวคือ เพิ่มความสามารถความจำและการเรียนรู้ มีการจดสิทธิบัตรสารสกัดในบัวบกด้านคุณสมบัติช่วยเพิ่มความสามารถในการจำ นอกจากนี้ยังมีการทดลองในสัตว์ด้วย ซึ่งพบว่า บัวบกทำให้ลูกหนูมีความจำและความสามารถในการเรียนรู้ดีขึ้น ทำให้เซลล์สมองของหนูแรกเกิดในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความฉลาด ส่วน hippocampal CA3 และแขนงนำสัญญาณประสาทของสมองส่วนที่เรียกว่า อมิกดาลา (amygdala) ซึ่งทำหน้าที่สำคัญในการควบคุมเหตุผลและอารมณ์ มีการพัฒนาการที่ดีกว่าหนูในกลุ่มควบคุม ทำให้ปฏิภาณไหวพริบในการหลบหลีกสิ่งกีดขวางของหนูดีขึ้น ตลอดจนยังเพิ่มสมาธิและความสามารถในการตัดสินใจเฉพาะหน้าในหนูได้อีกด้วย

ส่วนการศึกษาในมนุษย์พบว่า เด็กปัญญาอ่อนที่กินบัวบกวันละ 500 มิลลิกรัมติดต่อกันสามเดือนมีความสามารถเรียนรู้ได้ดีกว่ากลุ่มควบคุม ส่วนการศึกษาในระดับเซลล์ถึงกลไกการออกฤทธิ์บำรุงสมองพบว่า บัวบกทำให้การหายใจในระดับเซลล์ของสมองดีขึ้น ต้านอนุมูลอิสระ ต้านการเสื่อมของเซลล์สมอง คงสภาพปริมาณของสารสื่อประสาท acetylcholine ซึ่งจำเป็นต่อการทำงานของสมอง เสริมฤทธิ์การทำงานของสาร GABA ซึ่งเป็นสารสื่อประสาททำหน้าที่รักษาสมดุลของจิตใจทำให้ผ่อนคลายและหลับได้ง่าย นอกจากนี้บัวบกยังทำให้หลอดเลือดมีความแข็งแรงและสามารถนำเลือดไปเลี้ยงในอวัยวะต่างๆ ได้ดีขึ้น เป็นต้น

จากผลการศึกษาวิจัยดังกล่าว ทำให้บัวบกมีแนวโน้มจะใช้เป็นอาหารเพิ่มไอคิว เพิ่มความฉลาด เพิ่มความสามารถในการจำและการเรียนรู้ในเด็ก โดยเฉพาะในเด็กปัญญาอ่อนรวมไปถึงการใช้ในเด็กสมาธิสั้น เนื่องจากบัวบกทำให้สารในสมองมีความสมดุล คือ มีความสงบผ่อนคลาย และการเพิ่มเลือดไปเลี้ยงสมองทำให้เกิดความสามารถในเรียนรู้ได้ดีขึ้น ส่วนในคนทั่วไปบัวบกจะช่วยชะลออาการของโรคสมองเสื่อมในวัยชราหรืออัลไซเมอร์รวมทั้งช่วยคลายเครียด ทำให้มีสมาธิในการทำงานอีกด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลสมุนไพรไทยจาก ไทยโพสต์ ขอขอบคุณรูปภาพจากอินเตอร์เน็ต

October 27, 2012

ยาเเกเครียดที่ดีที่สุด

Category: Uncategorized – noum77 4:26 am

ยาเเกเครียดที่ดีที่สุด

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ด้วยภาวะโลกอันแสนจะวุ่นวายทุกวันนี้จากปัญหาต่าง ๆ ย่อมทำให้คนเราเครียดกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน ครอบครัว หรือสุขภาพ (หรือตอนนี้คงหนีไม่พ้นเรื่อง น้ำท่วม) และสิ่งเหล่านี้ย่อมส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจใช่มั้ยคะ? วันนี้เรามีเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยให้เพื่อน ๆ รู้สึกผ่อนคลายจากความเครียดได้มาบอกค่ะ

1. ดื่มชาเขียวเป็นประจำ จิบชาเขียวเป็นประจำทุกวันช่วยคุณให้รู้สึกผ่อนคลาย สงบนิ่ง แม้จะอยู่ในสิ่งรายล้อมอันแสนจะวุ่นวาย แถมยังทำให้สุขภาพดีด้วยนะ

2. ตามใจตัวเองบ้างอะไรบ้าง การได้ให้รางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ กับตัวเองก็เป็นความสุขทางใจอีกทางนึงนะ และยังช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย เช่น สาว ๆ หลายคน มักจะผ่อนคลายความเครียดด้วยการช้อปปิ้ง หรือหาของหวานอร่อย ๆ ทาน (ซึ่งก็มักจะได้ผลดีด้วยนะ)

3. หาหน้าจอสกรีนเซฟเวอร์ที่สบายตา หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เราต้องจ้องมองมันทั้งวัน อาจทำให้คุณปวดตาได้ ดังนั้นควรจะหาสกรีนเซฟเวอร์ที่ดูแล้วคลายความเครียด เช่น ภาพท้องทะเลที่สวยงามยามเย็น ท้องฟ้าครามในวันที่อากาศดี ป่าเขียวอันแสนร่มรื่นย์ เป็นต้น

4. เก็บข้อมูลทางสุขภาพไว้ในที่ปลอดภัย สถานสุขภาพบางแห่งมีการจัดเก็บข้อมูลสุขภาพของครอบครัวออนไลน์ หรือแม้แต่ในมือถือของคุณเอง ซึ่งทันสมัยและรวมอยู่ในที่เดียวเพื่อความสะดวกในการเข้าไปเช็คประวัติการรักษา การแจ้งเตือนนัดหมายกับแพทย์ หรือแม้กระทั่งสิ่งที่เคยถามคุณหมอไป

5. หันมาบริโภคโฮลเกรน โฮลเกรน หรือ “ธัญพืช” นั้นมีประโยชน์มากกว่าแป้งขาว แถมดีต่อสุขภาพ โดยธัญพืชจะค่อย ๆ ถูกดูดซึมอย่างช้า ๆ และถูกปล่อยเป็นพลังงานออกมา ทั้งนี้เมื่อร่างกายย่อยอย่างช้า ๆ แล้ว จึงทำให้รู้สึกอิ่มนานและช่วยคุมน้ำหนักได้อีกด้วย ช่างมีประโยชน์เหลือหลายจริง ๆ

6. เดินเท้าเปล่าบ้าง รู้หรือไม่ว่าการเดินเท้าเปล่าบนพื้นพรม สนามหญ้าหรือพื้นทรายบ้างเป็นการนวดเท้าแบบเบา ๆ วิธีหนึ่งนะ ลองเดินเท้าเปล่าสัก 10 นาที แล้วผ่อนคลาย ปล่อยใจให้สงบ ช่วยให้คลายเครียดได้นะ ถ้างั้นถอดถุงเท้า โยนรองเท้าทิ้งไป แล้วออกเดินโลด!

7. บันทึกความกังวลในแต่ละวัน ลองพกกระดาษกับปากกาติดตัวไว้ แล้วลองสังเกตุและจดดูว่าวัน ๆนึง เรามีเรื่องกังวลกับสิ่งต่าง ๆ เยอะมั้ยในแต่ละวัน แล้วหันมาทบทวนว่าคุณเสียเวลาไปกับเรื่องเหล่านี้มากเกินไปรึเปล่า

8. หายใจลึก ๆ เมื่อเห็น “จุด” งงใช่ไหมคะ? เจ้าจุดกลม ๆ ช่วยลดความเครียดได้อย่างไร? หากคุณใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีต่อวันลองกำหนดลมหายใจ โดยค่อย ๆ หายใจเข้าและหายใจลึก ๆ (เหมือนกับกำหนดลมหายใจนั่งสมาธิ) เพียงแค่นี้ก็ช่วยลดความเครียดได้ ซึ่งบางทีเรามักลืมทำ แต่คุณสามารถใช้ตัวช่วยได้ด้วยการติดสติ๊กเกอร์ลายจุดกลม ๆ ไว้ตามที่ต่าง ๆ เพื่อช่วยเตือนได้

9. ออกกำลังกาย วิธีขจัดความเครียดโดยไม่ต้องลงทุน แค่ลงแรง เนื่องจากเวลาเราออกแรงให้เหงื่อออก ร่างกายก็จะขับของเสียออกมาและยังช่วยเคลียร์หัวสมองให้โล่งด้วยนะ

10. กินขนมขบเขี้ยว “เครียดน้อย 1 เม็ด เครียดมาก 2 เม็ด” หลายคนคงจำประโยคนี้จากโฆษณาถั่วชนิดหนึ่งได้ ใช่แล้ว! การกินขนมขบเขี้ยวช่วยลดความเครียดได้ เช่น ถั่ว เมล็ดพืชและช็อคโกแลตชิป กินสักหนึ่งกำมือคุณก็พอ เพราะหากกินมากไป ก็จะเครียดเพราะความอ้วนถามหาได้

11. พูดอย่างนุ่มนวล เชื่อมั้ยว่าถ้าเราลองหัดพูดให้นุ่มนวล ละมุนละไม ส่งผลให้ความดันเลือด อัตราการเต้นของหัวใจและความเครียดลดลงได้

12. ระบายความรู้สึกผ่านตัวหนังสือ เมื่อรู้สึกเครียดก็ระบายมันออกมาเลย ไม่ต้องลงไม้ลงมือ แค่เขียนใส่กระดาษไป มันอาจจะไม่ได้ช่วยให้โกรธทันที แต่ทำให้ความเครียดลดลงได้นะ

13. ร้องเพลงขณะอาบน้ำ น่าจะเป็นสิ่งที่หลายคนทำมากที่สุดแล้ว เพราะรู้สึกว่ามันทำให้เราผ่อนคลายได้มากขึ้น แถมได้อาบน้ำเย็น ๆ ไปด้วย ชิลสุด ๆ

14. สัมผัสกลิ่นลาเวนเดอร์ เพียงจุดเทียนหอมกลิ่นลาเวนเดอร์อ่อน ๆ ในห้องนอนของคุณ จะช่วยทำให้รู้สึกล่องลอยราวกับอยู่ในสวนดอกลาเวนเดอร์แห่งความหอม ลืมชีวิตที่แสนวุ่นวายไปเสียสนิท

15. ดูหนัง วิธีบำบัดความเครียดอีกวิธีหนึ่งที่คนส่วนใหญ่มักทำคือ การดูหนัง ไม่ว่าจะดูที่บ้านหรือโรงหนัง เพราะมันช่วยให้เราหลีกหนีความจริงและเรื่องเครียดไปได้ชั่วขณะ

16. เข้านอนเร็ว หลายคนคงรู้สึกหงุดหงิดในยามเช้าเวลานาฬิกาปลุก แล้วต้องตื่นขึ้นมากดหลายครั้งๆ นั้นเพราะคุณนอนดึก จึงไม่อยากตื่นในตอนเช้า เพียงแค่คุณปรับเวลาให้นอนเร็วขึ้น เพื่อให้ร่างกายพักผ่อนให้เพียงพอ ร่างกายก็พร้อมรับวันใหม่อย่างสดชื่นแล้ว

17. บอกเล่าเรื่องดี ๆ ให้คนอื่นฟัง พูดคุยกับเพื่อนหรือเพื่อนร่วมงานเกี่ยวกับคนรู้จัก โดยเล่าในเชิงบวกและกล่าวชื่นชมยินดีพวกเขา สามารถสร้างปฏิสัมพันธ์อันดีต่อกันและช่วยลดความตึงเครียดลงได้

18. กุมมือ เคยรู้สึกไหมว่าตอนคุณไม่สบายใจ แล้วมีคนคอยจับมือและอยู่เคียงข้าง ทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น ทั้งที่ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาจากเรื่องที่เครียด นั้นเป็นเพราะการสัมผัสส่งผลบางอย่างที่ทำให้รู้สึกอุ่นใจขึ้น

19. ประดิษฐ์งานฝีมือ เชื่อไหมว่าการทำกิจกรรมอย่าง การถักไหมพรมหรือทำหนังสือ โดยใช้เวลาแค่ 20 นาที ช่วยให้คุณมีสมาธิมากขึ้นและให้ความสนใจไปกับสิ่งที่ทำให้คุณเพลิดเพลิน ลืมความตึงเครียดไปได้ชั่วขณะ

20. ขยันให้เหมือนผึ้ง หาอะไรทำเล็ก ๆ น้อย ๆ ภายในบ้านทำ เช่น กวาดบ้านถูบ้าน ทำความสะอาดลิ้นชัก จะได้ไม่อยู่ว่างเฉย ๆ และดูมีคุณค่า ซึ่งสิ่งที่เลือกทำควรจะเป็นงานเบา ๆ ใช้เวลาไม่เกิน 20 นาที เพราะเดี๋ยวจะเหนื่อยจนเกินไปแล้วเครียดอีก

21. เปิดรูปภาพคนที่คุณรัก สังเกตไหมคะ ว่าบนโต๊ะทำงานของคนส่วนใหญ่ของคนทำงาน มักมีภาพของครอบครัวหรือคนที่รักอยู่เสมอ นั้นเพราะว่าเวลาได้มองรูปภาพคนที่คุณรัก จะทำให้มีกำลังใจที่ดีขึ้น

22. จิบโกโก้ร้อน คงเป็นเครื่องดื่มที่ใครหลายคนชอบ (โดยเฉพาะสาว ๆ) เพราะนอกจากมีรสชาติ หวาน มัน ที่อร่อยแล้ว กลิ่นหอม ๆ ของโกโก้ช่วยให้รู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย

23. หาเวลาไปนวด นั่นแน่! ไม่ใช่นวดแบบนั้นนะจ๊ะ หนุ่ม ๆ ทั้งหลาย การนวดนี้เป็นการนวดเพื่อให้ร่างกายรู้สึกสบายขึ้น จากการทำงานหรือออกกำลังกาย โดยใช้เวลาสัก 5 นาทีทุกวัน จะนวดเองหรือหาคนช่วยก็ได้นะ ไม่ว่ากัน แต่เลือกให้ถูกคนล่ะ

24. มีความสุขกับชั่วโมงการอาบน้ำ ช่วงเวลาในการอาบน้ำ นับเป็นการพักผ่อนชนิดหนึ่ง แต่หลายคนมักจะรีบ ๆ อาบให้เสร็จเร็ว ๆ โดยหารู้ไม่ว่าพลาดช่วงเวลาในการพักผ่อนอีกวิธีหนึ่งไปเสียแล้ว อาจจะสัก 2 – 3 ครั้งต่ออาทิตย์ ใช้เวลาอาบน้ำสัก 20 นาที เพื่อให้ร่างกายได้พักบ้าง

25. ขัดตัว สมัยนี้การขัดตัวกำลังเป็นที่นิยมมาก เพราะนอกจากจะเป็นการขัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไป ยังทำให้รู้สึกสบายเนื้อสบายตัวขึ้น

26. การหัวเราะเป็นยาวิเศษ “หัวเราะวันละนิด จิตแจ่มใส” คำกล่าวนี้คงไม่เกินจริงไปนัก เพราะทุกครั้งที่เราหัวเราะ ร่างกายก็จะหลั่งสารแห่งความสุขออกมาและยังเป็นวิธการชะลอความแก่อีกทางนึงด้วยนะ

27. ลิสต์เรื่องที่ทำให้มีความสุข หากคุณต้องติดอยู่ในสภาวะรถติดหรืออะไรก็ตามที่ทำให้คุณเครียด อย่าใส่ใจกับมัน แล้วหันมานึกถึงเรื่องราวที่ทำให้คุณมีความสุขสัก 5 อย่างแล้วลิสต์ออกมา นั่นจะทำให้คุณมองวันทั้งวันที่เหลือของคุณในแง่ดีมากขึ้น ซึ่งสิ่งที่จดไว้ก็จะคอยเตือนว่าคุณมีเรื่องดีดีอะไรเกิดขึ้นบ้างในแต่ละวัน

28. อ่านกวีโปรดของคุณ ลองอ่านบทกวีเล่มโปรดแล้วอ่านออกเสียงออกมาดัง ๆ แล้วทอดอารมณ์ จินตนาการตามบทกวีอันแสนหวานนั้นไปกับมัน เพราะการอ่านบทกวีจะช่วยให้คุณค่อย ๆ หายใจเป็นจังหวะ อย่างช้าๆ ในขณะที่อ่านและปล่อยอารมณ์เพลิดเพลินไปกับมัน

29. เข้าครัวเฉือนความเครียด หลายคนที่ชอบเข้าครัวคงทราบดีว่าการทำอาหารนั้นสร้างความสุขอย่างหนึ่งให้กับชีวิต เรามักเพลิดเพลินเวลาค่อย ๆ หั่นผักสดเป็นจังหวะ เหมือนเล่นดนตรี ทำให้เราลืมเรื่องวุ่นวายภายนอกไปได้ชั่วขณะ แถมยังทำให้เรามีอาหารแสนอร่อย เป็นรางวัลตบท้ายอีกด้วย

30. ยืดแข้งยืดขา คนเรานั่งทำงานนานๆ ก็ทำให้เมื่อยได้ ถึงจะนั่งโต๊ะทำงานสบาย ๆ ก็เถอะ ลองยืดแข้งยืดขาเพื่อคลายกล้ามเนื้อซะบ้าง บิดตัวไปมา หมุนศีรษะเบา ๆ ขยับแขนขาเล็กน้อย แค่นี้ก็ช่วยได้แล้ว

จากวิธีข้างต้น คงมีส่วนช่วยให้ทุกคนคลายความเครียดลงได้บ้างนะคะ ขั้นตอนง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้ สามารถทำได้เป็นกิจวัตร ฉะนั้นจะเครียดไปไย ชีวิตยังมีเรื่องให้ค้นหาความสุขอีกมาก ถ้าเพื่อน ๆ ลองทำแล้วได้ผลดีอย่างไรก็อย่าลืมบอกต่อเรื่องราวดี ๆ แบบนี้ด้วยนะคะ โลกเราจะได้มีคนเครียดน้อยลง

October 21, 2012

สมุนไพรรักษาเหาเเบบประหยัดง่ายๆ

Category: Uncategorized – noum77 3:30 am

ส่วนที่ใช้ : ใบสด หรือ เนื้อในเมล็ดสด

สรรพคุณ :

  • รักษาเหา
  • รักษาหิด
  • รักษาจี๊ด

วิธีและปริมาณที่ใช้

  • ยารักษาเหา
    ใช้ใบสด 8-12 ใบ หรือเมล็ดที่กะเทาะเปลือกแล้วตำให้ละเอียด 4-5 ช้อนแกง นำมาผสมกับน้ำมันพืช เช่น น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันถั่วพอเปียกเล็กน้อย (แฉะๆ) ชะโลมบนเส้นผมที่เป็นเหา ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง สระออกให้หมด ทำเช่นนี้ติดต่อกัน 2-3 วัน ตัวเหา และไข่จะฝ่อหมด หรืออาจจะใช้ความแรงของใบสด หรือเมล็ดน้อยหน่ากับน้ำมันมะพร้าว ความแรง 1:2
  • ยารักษาหิด
    ใช้ใบสดหรือเมล็ดในสด จำนวนไม่จำกัด ตำให้ละเอียด เติมน้ำมันพืชลงไปพอแฉะ ใช้ทาบริเวณที่เป็นหิดวันละ 2-3 ครั้ง จนกว่าจะหาย
  • ยารักษาจี๊ด
    ใช้เนื้อเมล็ดสด 20 เมล็ด ตำให้ละเอียด ใช้สารส้มเท่ากับหัวแม่มือ ใส่ในฝาละมี ตั้งไฟอ่อนๆ เมื่อสารส้มละลาย ค่อยๆ โรยผงของเมล็ดน้อยหน่าลงไปทีละน้อย คนจนเข้ากันดี จากนั้นใช้ไม้ป้ายยาที่กำลังร้อนแต่พอให้ผิวหนังทนได้ ป้ายลงตรงตำแหน่งที่บวม ทำเช่นนี้วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ทำหลายๆ วัน จนกว่าจะหาย ยาที่เหลือจะแข็งพอจะใช้ตั้งไฟอ่อนๆ

ข้อควรระวัง : ถ้าใช้น้ำสกัดจากเมล็ดอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ และควรระวังอย่าให้น้ำยาเข้าตา เพราะจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง
สารเคมี

สรรพคุณ :

  • ผลแห้ง – รักษาโรคหิด
  • ผล – รสขม เย็นจัด ใช้แก้ร้อน ร้อนในกระหายน้ำทำให้ตาสว่าง แก้บิด ตาบวมแดง แผลบวมเป็นหนอง ฝีอักเสบ
  • เมล็ด – รสขม ชุ่ม ไม่มีพิษ แก้วัวถูกพิษใช้คั้นเอาน้ำให้กิน เป็นยากระตุ้นความรู้สึกทางเพศ เพิ่มพูนลมปราณ บำรุงธาตุ บำรุงกำลัง
  • ใบ – แก้โรคกระเพาะ บิด แผลฝีบวมอักเสบ ขับพยาธิ
  • ดอก – รสขม เย็นจัด ใช้แก้บิด
  • ราก – รสขม เย็นจัด ใช้แก้ร้อน แก้พิษ บิดถ่ายเป็นเลือด แผลฝีบวมอักเสบ และปวดฟัน
  • เถา – รสขม เย็นจัด ใช้แก้ร้อน แก้พิษ บิดฝีอักเสบ ปวดฟัน

วิธีและปริมาณที่ใช้

  • ผลสด – ต้มรับประทาน ครั้งละ 6-15 กรัม หรือผิงไฟให้แห้ง บดเป็นผงรับประทาน ใช้ภายนอก ตำคั้นเอาน้ำทาหรือพอก
  • เมล็ดแห้ง – 3 กรัม ต้มน้ำดื่ม
  • ใบสด – 30-60 กรัม ต้มน้ำดื่ม หรือใบแห้งบดเป็นผงรับประทาน ใช้ภายนอกต้มเอาน้ำชะล้าง กอก หรือคั้นเอาน้ำทา
  • รากสด – 30-60 กรัม ต้มน้ำดื่ม ใช้ภายนอก ต้มเอาน้ำชะล้าง

เถาแห้ง – 3-12 กรัม ต้มน้ำดื่ม ใช้ภายนอก ต้มเอาน้ำชะล้าง หรือตำพอก

สรรพคุณ ใช้เป็นยาแก้จี๊ด รักษาโรคกระเพาะ

  • ยาแก้จี๊ด
    ใช้ผลอ่อน ไม่จำกัดจำนวน นำไปต้มหรือปิ้งไฟ ใช้ทำเป็นผักจิ้มหรือแกงส้ม รับประทานสดๆ จะได้ผลดีกว่า

รักษาโรคกระเพาะ
ใช้ผลมะเขือมอญ ตากแห้ง บดให้ละเอียด รับประทานครั้งบะ 1 ช้อนโต๊ะ วันละ 3-4 เวลา หลังอาหารแล้วดื่มน้ำตาม

สรรพคุณ รักษาเหา หิด เป็นยาถอนพิษ รักษาแผลน้ำร้อนลวก รักษาโรคผิวหนัง แก้หวัด คัดจมูก ฉีดพ่นฆ่าแมลงและเพลี้ยต่างๆ ได้ผลดี
วิธีและปริมาณที่ใช้

  • รักษาเหา – ใช้ยาฉุนหรือยาตั้ง (ใบยาสูบแก่ตากแห้ง) 1 หยิบมือ ผสมกับน้ำมันก๊าดประมาณ 3-4 ช้อนแกง ชะโลมทั้งน้ำและยาเส้นลงบนผมทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง แล้วสระให้สะอาด ทำติดต่อกัน 3-4 วัน
  • เป็นยาถอนพิษ รักษาแผลน้ำร้อนลวก – ใช้ยาเส้นหรือยาตั้ง 1 หยิบมือ คลุกกับน้ำมันมะพร้าวปิดบริเวณที่ถูกน้ำร้อนลวก จะช่วยถอนพิษ
  • แก้หวัดคัดจมูก – ใช้ใบยาอย่างฉุนจัดๆ ผสมกับปูนแดงและใบเนียม กวนเป็นยานัตถุ์
  • แก้หิดและโรคผิวหนัง – ใช้ยางสีดำๆ ในกล้องสูบยาของจีนใส่แต้มแผล แก้หิดได้ดีมาก ใช้เคี่ยวกับน้ำมันทารักษาโรคผิวหนังต่างๆ ได้ด้วย

คุณประโยชน์ทางยา ใช้น้อย
การสูบบุหรี่โดยการเผาใบยานี้ ทำให้นิโคตินและอัลคาลอยด์อื่นๆ สลายตัว วัตถุเหล่านี้ทำให้เกิดเป็นพิษขึ้นในการสูบบุหรี่ มีหลายคนแสดงว่าการสูบบุหรี่ มีอำนาจกล่อมประสาท (Soothing) แต่ไม่ใช่เนื่องจากอำนาจของนิโคติน
การสูบบุหรี่มากทำให้เจ็บคอและไอ เนื่องจากลำคอและหลอดลม อักเสบบวม ถ้าอาการแรงหน่อยจะทำให้หัวใจอ่อนและเต้นไม่สม่ำเสมอ และผ่อนสภาพประสาทส่วนกลาง ความจำไม่ดี  มือสั่น หายใจอ่อน ความดันโลหิตลดลงต่ำ เหงื่อออกมาก
แต่ถ้าเป็นคนสูบประจำ ก็จะไม่มีอาการเหล่านี้ เพราะร่างกายสามารถอ๊อกซิไดซ์นิโคตินได้พอควร คนที่สูบซิกาแรตวันละ 25 มวน จะต้องเสียสีของเม็ดโลหิตแดงไปประมาณ 25% ในคราวหนึ่ง
นิโคตินเป็นแอลคาลอยด์ชนิดน้ำ มีอยู่ในใบของยาสูบประมาณ 7% ละลายง่ายในน้ำ แอลกอฮอล์ และอีเธอร์ ใช้มากในทางเกษตรกรรม ปรุงเป็นยาฉีดแมลงและเพลี้ยต่างๆ ได้ผลดี การผสม ใช้นิโคติน 1 ส่วน สบู่อ่อน 20 ส่วน ในน้ำ 2,000 ส่วน ยานี้มีพิษแรง ใช้ระวังถูกผิวหนังจะซึมเข้าไป เป็นพิษมาก

สรรพคุณ 

  • รักษาเหา
  • รักษาหิด
  • รักษาจี๊ด

วิธีและปริมาณที่ใช้

  • ยารักษาเหา
    ใช้ใบสด 8-12 ใบ หรือเมล็ดที่กะเทาะเปลือกแล้วตำให้ละเอียด 4-5 ช้อนแกง นำมาผสมกับน้ำมันพืช เช่น น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันถั่วพอเปียกเล็กน้อย (แฉะๆ) ชะโลมบนเส้นผมที่เป็นเหา ทิ้งไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง สระออกให้หมด ทำเช่นนี้ติดต่อกัน 2-3 วัน ตัวเหา และไข่จะฝ่อหมด หรืออาจจะใช้ความแรงของใบสด หรือเมล็ดน้อยหน่ากับน้ำมันมะพร้าว ความแรง 1:2
  • ยารักษาหิด
    ใช้ใบสดหรือเมล็ดในสด จำนวนไม่จำกัด ตำให้ละเอียด เติมน้ำมันพืชลงไปพอแฉะ ใช้ทาบริเวณที่เป็นหิดวันละ 2-3 ครั้ง จนกว่าจะหาย
  • ยารักษาจี๊ด
    ใช้เนื้อเมล็ดสด 20 เมล็ด ตำให้ละเอียด ใช้สารส้มเท่ากับหัวแม่มือ ใส่ในฝาละมี ตั้งไฟอ่อนๆ เมื่อสารส้มละลาย ค่อยๆ โรยผงของเมล็ดน้อยหน่าลงไปทีละน้อย คนจนเข้ากันดี จากนั้นใช้ไม้ป้ายยาที่กำลังร้อนแต่พอให้ผิวหนังทนได้ ป้ายลงตรงตำแหน่งที่บวม ทำเช่นนี้วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น ทำหลายๆ วัน จนกว่าจะหาย ยาที่เหลือจะแข็งพอจะใช้ตั้งไฟอ่อนๆ

ข้อควรระวัง : ถ้าใช้น้ำสกัดจากเมล็ดอาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้ และควรระวังอย่าให้น้ำยาเข้าตา เพราะจะทำให้เกิดอาการระคายเคือง
สารเคมี

October 5, 2012

สมุนไพรบำรุงเส้นประสาท

Category: Uncategorized – noum77 7:56 am

สมุนไพรบำรุงเส้นประสาท

แสลงใจ (โกฏกะกลิ้ง)

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Strychnos nux-vomica L.

ชื่อสามัญ : Nux-vomica Tree, Snake Wood

วงศ์ : Strychnaceae

ชื่ออื่น : กระจี้ กะกลิ้ง ตูมกาแดง แสลงทม แสลงเบื่อ แสลงเบือ

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :
ส่วนที่ใช้ :ไม้ต้น สูงประมาณ 30 เมตร ใบเดี่ยว เรียงตรงข้าม รูปไข่แกมขอบขนาน กว้าง 5 – 8 ซม. ยาว 7 – 12 ซม. ดอกช่อ ออกที่ซอกใบ กลีบดอกสีเขียวอ่อน ผลเป็นผลสด รูปกลม เมล็ดกลมแบนคล้ายกระดุม สีเขียวแกมเทา มีขนสีน้ำตาลอ่อนนุ่มปกคลุม

สรรพคุณ :

เมล็ด
- มี Alkaloid เรียกว่า Strychnine
- เป็นยาบำรุงหัวใจให้เต้นแรงและบำรุงประสาทอย่างแรง
- ยาที่เบื่อสุนัขให้ผงอัลคาลอยด์ของสตริกนิน 1 เกรน เบื่อสุนัขได้ 1 ตัว ก่อนตายมีอาการชักกะตุกจนตาย ภายใน 1-3 ชั่วโมง (**ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตถือเป็นบาป ไม่ควรทำ)
- มีรสเมาเบื่อขมเล็กน้อย ตัดไข้ตัดพิษกระษัยเจริญอาหาร

วิธีและปริมาณที่ใช้
ทิงเจอร์นักสะวอมมิกา (Tincture Nux vomica) เป็นยาน้ำสีเหลืองทำจากเมล็ดของต้นแสลงใจ รับประทานได้ 5-15 หยด

- เป็นยาบำรุงประสาท ให้มีกำลังรู้สึกเฉียบแหลมขึ้น บำรุงเส้นประสาทชนิดโมเตอร์ ให้กระเพาะและลำไส้ขย้อนอาหารและขับน้ำไฟธาตุ

-ใช้แก้โรคอัมพาต เส้นตายและเนื้อชาไม่รู้สึก

-ใช้เป็นยาบำรุงความกำหนัด

-ใช้เป็นยาบำรุงธาตุ เป็นยาระบายอย่างอ่อน
ยานี้รับประทานมากไม่ได้เป็นยาพิษ
สตริกนินเป็นยาด่างที่แยกออกจากยานี้ รับประทานได้ 1/200 เกรน หรือ 1/100 เกรน ใช้ยาอย่างเดียวกับยานักสะวอมมิกา

-ใช้แก้ในทางประสาทพิการ เส้นตาย หรือเป็นเหน็บชาต่างๆ

-แก้โรคอันเกิดจาก ปากคอพิการ ขับพยาธิ ขับปัสสาวะ แก้พิษงู พิษตะขาบ พิษแมลงป่อง แก้ลมกระเพื่อมในท้อง แก้คลื่นเหียน แก้ลมพานไส้ แก้ริดสีดวงทวาร โลหิตพิการ ทำให้ตัวเย็น ขับลมในลำไส้
ในเภสัชตำรับกล่าวว่า ลูกโกฏกะกลิ้งหรือลูกกกะจี้ หรือแสลงใจนั้น ประกอบด้วยเมล็ดแห้งสุกของ Strychnos nux vomica L. มีไม่มากกว่า 1% ของ Oganic วัตถุอื่นๆ และไม่น้อยกว่า 1.2% ของ Strychnos สรรพคุณ ของ Strychnos nux vomica เนื่องจาก Strychnine ที่มีอยุ่ ใช้ผงผสมกับ Bismuth หรือ Pepsin ใส่ Cachet ใช้ในโรคธาตุพิการไม่มีกำลังย่อยอาหาร ใช้มากในยาผสมต่างๆ สำหรับบำรุงการย่อยอาหารในปาก ทำให้ขมและอยากอาหารในลำไส้ ทำให้ลำไส้เกิดอาการไหวตัว ใช้ผสมกับยาถ่ายต่างๆ เช่น Cascara ใช้ในโรคพรรดึกเรื้อรัง เนื่องขากลำไส้ไม่มีกำลัง ใช้ Extract อย่างแห้งผสมน้ำ เป็นยาเม็ดประกอบด้วยยาระบายหรือยาจำพวกเหล็ก สำหรับโรคโลหิตจาง

ใบ – ตำกับสุรา พอกปิดแผลเรื้อรัง เน่าเปื่อยได้ดี แก้โรคไตพิการ

ราก – รับประทานแก้ท้องขึ้น

Free Web Hosting